เมื่อทั่วโลกต้องเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติและสภาพอากาศ เราควรเตรียมพร้อม รับมืออย่างไร

รายงาน Global Climate Risk Index ของ Germanwatch ได้จัดอันดับ 10 ประเทศ ที่มีมูลค่าความเสียหายที่เกิดจากภัยพิบัติสภาพอากาศ เช่น พายุ น้ำท่วม ภัยแล้ง ระหว่างปี 2543-2562 ได้แก่ เปอร์โตริโก้ เมียนมา เฮติ ฟิลิปปินส์ โมซัมมิก บาฮามาสบังกลาเทศ ปากีสถาน ไทย และเนปาล ตามลำดับ

โดยเปอร์โตริโก้ เมียนมา และเฮติ ถูกระบุว่าเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในช่วง 2 ทศวรรษ ตามมาด้วยฟิลิปปินส์ โมซัมบิก และบาฮามาส ซึ่งสองประเทศหลังเพิ่งขยับเข้ามาอยู่ใน 10 อันดับสุดท้าย ขณะที่ประเทศอื่นส่วนใหญ่ได้รับการจัดอันดับใกล้เคียงกับปีก่อน

“เปอร์โตริโก เมียนมา และเฮติ เป็นสามประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา”

รายงานฉบับดังกล่าว ยังระบุว่า อันดับที่เกิดขึ้นเกิดจากผลพวงของเหตุการณ์ร้ายแรง เช่น พายุเฮอริเคนมารีอา ในเปอร์โตริโก ปี 2560 และเฮอริเคน Jeanne ปี 2547 และเฮอริเคนแซนดี ปี 2555 ในเฮติ

เช่นเดียวกับ เมียนมา ที่ได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลนนาร์กิสพัดถล่มอย่างหนักในปี 2551 ซึ่งเกิดการสูญเสียชีวิตราว 140,000 คน

ส่วนโมซัมบิกและบาฮามาส อยู่ในอันดับต้น ๆ ที่เกิดจากผลพวงของพายุที่รุนแรงเป็นพิเศษ โดยในปี 2562 พายุไซโคลนอิดาอิ และเคนเนธ ถล่มโมซัมบิก และพายุเฮอริเคนดอเรียนพัดถล่มบาฮามาส

ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นชี้ให้เห็นถึงความเปราะบางในพื้นที่ และพบว่า ประเทศที่มีความเสี่ยงด้านภูมิอากาศ ส่วนใหญ่เป็นประเทศยากจน