เครื่องหมายอัศเจรีย์

กรมโยธาฯยอมถอย สร้างกำแพงกันคลื่นหาดสุดท้ายปราณบุรี ปรับแบบตามข้อเรียกร้องกลุ่มผู้คัดค้าน

25 กุมภาพันธ์ 2565

นายพิษณุพงษ์ เหล่าลาภผล    ประธานกลุ่มฅนรักทะเลและชายหาดปากน้ำปราณ  ให้ข้อมูลกับศูนย์พัฒนาการสื่อสารด้านภัยพิบัติ ถึงความคืบหน้าการสร้างแนวกำแพงกันคลื่น แบบขั้นบันไดบริเวณหาดทรายหน้าศาลเสด็จเตี่ยปากน้ำปราณบุรีจ. ประจวบคีรีขันธ์  เป็นจุดที่มีหาดทรายสมบูรณ์ระยะทางประมาณ 230 เมตร จากโครงการก่อสร้างทั้งหมด 3 ระยะ รวมความยาว 888 เมตร งบประมาณการก่อสร้างรวมการปรับปรุงภูมิทัศน์ โดยรอบ เป็นจำนวนเงินกว่า 144 ล้านบาท  ซึ่งโครงการก่อสร้างดังกล่าวก็มีทั้งกลุ่มผู้สนับสนุนและไม่เห็นด้วย  โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ผู้รับผิดชอบโครงการดังกล่าว  ชี้แจงเหตุผลที่ต้องสร้างพร้อมอ้างข้อมูลเปรียบเทียบเส้นชายฝั่งด้วยภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณชายฝั่งหน้าศาลกรมหลวงชุมพร ที่มีอัตราการกัดเซาะสูงสุด 1.74 เมตร/ปี รวมถึงคาดการณ์ในอนาคต 25 ปีข้างหน้าด้วยแบบจำลองคณิตศาสตร์  พบว่าหากไม่มีเขื่อนป้องกัน จะถูกกัดเซาะเป็นระยะ 22 เมตร  จึงจำเป็นต้องสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะในพื้นที่ดังกล่าว 

นายพิษณุพงษ์ กล่าวว่า รูปแบบที่ทางกลุ่มผู้ไม่เห็นด้วยได้นำเสนอกับที่ประชุม ซึ่งมีตัวแทนจากกรมโยธาธิการและผังเมืองและผู้เกี่ยวข้อง เบื้องต้น ได้เสนอข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ประกอบด้วย

1. แนวป้องกันต้องอยู่หลังจากแนวถอยร่น 10 เมตร วัดจากระดับน้ำทะเลขึ้นสูงสุดตามธรรมชาติ (จุดรอยต่อระหว่างชายหาดกับเนินทราย คือ บริเวณหัวเรือรบ)

2. ขนาดของแนวป้องกัน คือ สันเขื่อนกว้าง 3 เมตร แนวหินด้านหน้าสันเขื่อนมีขนาดไม่เกิน 3 เมตร (ส่วนที่ล้ำแนวถอยร่น 10 เมตร ออกมา) โดยแนวหินในส่วนนี้ทั้งหมดต้องอยู่ใต้พื้น 1-1.5 เมตร 

3. ใช้แนวต้นรักทะเลปลูกด้านหน้าสันเขื่อนเพื่อช่วยป้องกันและดักตะกอนทราย

ซึ่งจากการหารือ ทางกรมโยธาธิการและผังเมืองเห็นด้วยกับข้อเสนอ ข้อ 1  และ 3 แต่ในส่วนของข้อ 2 นั้นทางกรมฯขอเวลาในการศึกษาเพิ่มเติม

ล่าสุด หลังการประชุมร่วมกัน กรมโยธาธิการและผังเมือง มีแนวทางที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการสร้างเขื่อนคอนกรีตขั้นบันไดให้เป็นเขื่อนหินทิ้ง และขยับแนวก่อสร้างให้ชิดชายฝั่งมากขึ้น เพื่อให้เหลือพื้นที่หาดทรายด้านหน้าเขื่อน  ซึ่งก็ทำให้ประชาชนในพื้นที่พอใจในการแก้ปัญหาของกรมโยธาธิการและผังเมือง

แชร์