
หาดแม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นับเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ซึ่งกรมโยธาธิการและผังเมือง กำหนดโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่น ความยาว เกือบ 1 กม. ไว้บนชายหาดแห่งนี้ โดยโครงการดังกล่าว เกิดขึ้นหลังหน่วยงานส่วนท้องถิ่นได้มีการร้องขอแนวทางแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากพายุปาบึก เมื่อปี 2562
แต่ก็มีเสียงสะท้อนจากชาวบ้านบางส่วนว่า ปัจจุบันปัญหาการกัดเซาะที่เกิดขึ้นไม่ได้รุนแรง เหมือนในครั้งที่มีเหตุการณ์พายุปาบึก ประกอบกับหาดทรายก็มีการทับถมสลับกับกัดเซาะ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติตามธรรมชาติจึงมองว่า การก่อสร้างโครงสร้างวิศวกรรมป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง เป็นเรื่องที่เกินความจำเป็น อีกทั้งยังกังวลว่ากำแพงกันคลื่นจะส่งผลทำให้หาดทรายหายไปและจะกระทบวิถีชีวิตของคนในพื้นที่โดยหลังจากเกิดเหตุภัยพิบัติครั้งนั้น ก็ไม่พบการกัดเซาะชายฝั่งรุนแรงเพิ่มเติมส่วนนี้ชาวบ้านบางรายจึงมองว่าหากการกัดเซาะ ไม่ได้เกิดกับพื้นที่ที่มีประชาชนอยู่อาศัยหรือใช้ประโยชน์ ก็ควรปล่อยให้การกัดเซาะดำเนินไปถึงจุดสมดุลและยุติไปเอง อีกทั้งยังมองว่าในอนาคตควรมีการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น ผ่านกลไกของ พ.ร.บ.ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยฯ ที่ขณะนี้ภาคประชาชนอยู่ระหว่างรวบรวมรายชื่อขอแก้ไข ซึ่งเนื้อหาสำคัญของร่างแก้ไขดังกล่าว คือการเสนอเพิ่มเติมให้ภัยพิบัติเรื่องการกัดเซาะชายฝั่งเป็นสาธารณภัยประเภทหนึ่งเพื่อให้ท้องถิ่นสามารถนำงบประมาณมาใช้แก้ปัญหาเมื่อเกิดภัยพิบัติได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านการยื่นเรื่องร้องของบประมาณจากหน่วยงานรัฐซึ่งต้องใช้ระยะเวลานาน เมื่อรอให้เวลาผ่านพ้นไปปัญหาที่เคยมีก็หมดไป การจะยัดเยียดโครงการที่เหมาะสมกับสภาพปัญหาในอดีตแต่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันเข้ามาในพื้นที่ จึงไม่เกิดประโยชน์




