
สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน.เผยสถานการณ์ของลำน้ำมูล – ลำน้ำชี ในขณะนี้ถือได้ว่าปริมาณ น้ำ สูงที่เรียกได้ว่าอยู่ในระดับเตือนภัยขั้นวิกฤตหลายจุด โดยเฉพาะในพื้นที่ติดริมน้ำในจังหวัดขอนแก่น ชัยภูมิ บุรีรัมย์ ยโสธร กาฬสินธุ์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี
เนื่องจากปริมาณน้ำฝนย้อนหลังที่ตก จากร่องมรสุมก่อนที่พายุโนรูจะเข้ามา มีฝนสะสม 3 วันที่ผ่านมาในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ในระดับ สูงเฉลี่ยระดับ 100-150 มิลลิเมตร
สูงสุดที่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น 213 มิลลิเมตร, อ.เมือง จ.ชัยภูมิ 183 มิลลิเมตร, อ.เมือง จ.สุรินทร์ 177 มิลลิเมตร, อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ 164 มิลลิเมตร จึงทำให้ลำน้ำสาขาต่างๆ และระดับน้ำในลำน้ำมูล – ชี เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
พร้อมจับตาเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ถือได้ว่าเป็นอีกจุดที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากเช้านี้มี น้ำ ไหลลงเขื่อนกว่า 100 ล้าน ลบ.ม.
ในขณะที่เขื่อนสามารถระบายน้ำออกได้เพียง 25 ล้าน ลบ.ม. ดังนั้นปริมาณน้ำที่ยังสูงอยู่ และจะต้องรองรับน้ำจากพายุโนรู อีกในวันที่ 29 – 30 ก.ย.นี้ รวมถึงในขณะนี้พื้นที่ท้ายน้ำยังต้องรับฝนจากพายุที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามา ก็จะยิ่งส่งผลกระทบกับชาวบ้านเพิ่มขึ้น

สำนักงานชลประทานจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บ น้ำ ต่างๆ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา วันนี้พบว่ามีอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 8 แห่ง จากทั้งหมด 23 แห่ง ที่มีปริมาณน้ำเกินความจุแล้ว ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยบ้านยาง อ.เมือง 102.13%, อ่างเก็บน้ำห้วยยาง อ.ปักธงชัย 103.02%, อ่างเก็บน้ำลำเชียงสา อ.วังน้ำเขียว 101.32%, อ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง อ.วังน้ำเขียว 103.38%, อ่างเก็บน้ำบึงกระโตน อ.ประทาย 111.22%, อ่างเก็บน้ำห้วยบง อ.ชุมพวง 101.98%, อ่างเก็บน้ำห้วยสะกาด อ.พิมาย 106.74% และอ่างเก็บน้ำลำฉมวก อ.ห้วยแถลง 108.95%
นอกจากนี้ยังมีอ่างเก็บน้ำขนาดกลางอีก 5 แห่งที่มีปริมาณน้ำเกิน 90% ใกล้จะเต็มความจุกักเก็บแล้ว ได้แก่ อ่างเก็บน้ำลำสำลาย อ.ปักธงชัย, อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนบน) อ.ด่านขุนทด, อ่างเก็บน้ำหนองกก อ.พระทองคำ, อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำเค็ม อ.บัวใหญ่ และอ่างเก็บน้ำห้วยยางพะไล อ.แก้งสนามนาง
ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว, อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย, อ่างเก็บน้ำมูลบน และอ่างเก็บน้ำลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำกักเก็บรวมเฉลี่ย 75.71% เท่านั้น ซึ่งยังคงสามารถรับน้ำฝนได้อีกในปริมาณมาก จึงยังไม่น่าเป็นห่วงนัก

ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า พายุไต้ฝุ่น “โนรู(NORU)” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง (เมืองดานัง) ในช่วงเช้าของวันที่ 28 กันยายน 2565 และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน เคลื่อนผ่าน สปป.ลาว และเข้าสู่ด้านตะวันออกของภาคอีสาน บริเวณตอนบนของ จ.อุบลราชธานี และ จ.อำนาจเจริญ ช่วงเย็นของวันที่ 29 ก.ย.65
และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ จากนั้นจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคอีสานตอนกลาง ภาคกลาง และภาคเหนือต่อไป ซึ่งอาจทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคอีสานตอนล่าง บริเวณ จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ต้องเฝ้าระวังและติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด