
นายชัชชัย สิงห์กุล 1 ในตัวแทนของกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านแหลมรุ่งเรือง จ.ระยอง เปิดเผยกับศูนย์พัฒนาการสื่อสารด้านภัยพิบัติ กรณีที่บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม ไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC เริ่มจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่ว บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล (SPM) จำนวน 3 ครั้ง ในรอบ 2 เดือน ซึ่งกลุ่มประมงพื้นบ้าน จะได้รับเงินเยียวยา จำนวน45,000 บาท ต่อเรือประมงหนึ่งลำ ที่ไม่มีข้อผูกพันกับผู้รับ

นายชัชชัย ระบุว่า กลุ่มประมง ได้รับการประสานให้เข้ารับเงินเยียวยาแล้ว ซึ่งก็มีผู้ที่ประสงค์เข้ารับเงินเยียวยา ประมาณ 40 คน แต่ตนเองและเพื่อน ๆ อีก รวม 22 คนเห็นตรงกันว่าไม่ควรรับข้อเสนอดังกล่าว เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนของเงื่อนไขการจ่ายเงิน ประกอบกับมองว่า จำนวนเงินที่บริษัทฯมอบให้ ไม่เทียบเท่ากับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพยากรทางทะเล และการที่ต้องขาดรายได้มานานกว่า1 เดือน สะท้อนได้จากสัตว์น้ำ ไม่ว่าจะเป็น ‘หมึก’ ‘ปู’ และ ‘ปลา’ ที่เคยมีจำนวนมากกลับลดลงอย่างน่าใจหาย รวมถึงการวางอวนหาสัตว์น้ำก็ยังไม่สามารถทำได้เนื่องจากพบก้อนน้ำมันที่จับตัวกับสารขจัดคราบน้ำมัน (Oil Dispersant) จมลงสู่ใต้ท้องทะเลเป็นจำนวนมาก ทำให้เกรงว่าอาจเกิดการปนเปื้อน ซึ่งวิธีเดียวที่จะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้คือการออกไปหากินไกลจากจุดเดิม แต่ก็ต้องเพิ่มมาด้วยค่าน้ำมันที่สูงขึ้นและความเสี่ยง ทำให้ต้องหยุดออกหาสัตว์น้ำ

มองว่า “การที่บริษัทฯจ่ายเงินเยียวยาในลักษณะนี้ อาจเป็นการแก้ปัญหาที่สร้างภาพ ไม่จริงใจและทำไปเพื่อลดกระแสสังคมเท่านั้น” ขณะนี้ตนเองและเพื่อน รวม22 คน กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานเพื่อฟ้องร้องบริษัทฯให้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเหมาะสม

ทั้งนี้ มีข้อมูลว่า บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม ไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ได้จ่ายเงินช่วยเหลือให้กับกลุ่มประมงพื้นบ้านเกาะเสม็ด ที่ลงทะเบียนยื่นคำร้องไว้ระหว่างวันที่ 26 มกราคม ถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 และได้รับสิทธิ์รับเงินช่วยเหลือเดินทางมารับเงินจำนวนทั้งสิ้น 41 ลำ รวมเป็นเงินกว่า 1.8 ล้านบาท ส่วนกลุ่มประมงพื้นบ้านส่วนที่เหลือ บริษัทฯอ้างว่าจะได้รับเงินช่วยเหลือในวันที่ 2 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป