นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ได้มีการประชุมร่วมกับนายภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) พร้อมฝ่ายบริหาร
โดยวาระสำคัญที่หารือในที่ประชุมคือ แนวทางขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นไปตามมติ ครม. และยกระดับมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จากอ้อยไฟไหม้ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
เนื่องจากในช่วงเดือนธันวาคม-เมษายนของทุกปี จะเกิดปัญหา PM2.5 ในหลายพื้นที่ของประเทศ และเป็นช่วงเวลาที่ตรงกับฤดูเก็บเกี่ยวอ้อยเข้าโรงงานน้ำตาลทั่วประเทศ โดยปีนี้คาดว่า ผลผลิตอ้อยทั่วประเทศจะเพิ่มขึ้น มีพื้นที่เพาะปลูกอ้อยประมาณ 12 ล้านไร่ และมีจำนวนอ้อยเข้าหีบจำนวนประมาณ 74 ล้านตัน โดยประมาณการว่าจะมีอ้อยไฟไหม้เข้าหีบในสัดส่วนร้อยละ 30

ซึ่งตั้งแต่เปิดหีบอ้อยเมื่อเดือนธันวาคม 2565 สอน. ตรวจพบพื้นที่ปลูกอ้อยที่มีไฟไหม้ซ้ำซาก ยังคงมีอยู่ในบริเวณรอยต่อระหว่างจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา และบริเวณรอยต่อจังหวัดขอนแก่น อุดรธานี กาฬสินธ์ และมหาสารคาม โดยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้ คพ. แจ้งไปยังจังหวัดดังกล่าวที่มีไฟไหม้ซ้ำซากในพื้นที่ปลูกอ้อย ให้ยกระดับมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา PM2.5 จากอ้อยไฟไหม้อย่างเข้มงวดต่อไป
นอกจากนี้ ในระยะยาว คพ. และ สอน. จะทำงานอย่างใกล้ชิด โดยมีแผนจะร่วมกันจัดทำ After Action Review และจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อยกระดับมาตรการระยะยาวสำหรับเตรียมฤดูกาลเปิดหีบในปีถัดไป โดยจะมีมาตรการที่สำคัญได้แก่ มาตรการส่งเสริมช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยด้วยเทคโนโลยีและ องค์ความรู้ทางวิชาการ ควบคู่ไปกับมาตรการด้านบังคับใช้กฏหมายตามพระราชบัญญัติโรงงาน พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และพระราชบัญญัติการสาธารณสุข
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2564-2566 พบจุดความร้อนในพื้นที่ปลูกอ้อย ประมาณร้อยละ 3-4 ของพื้นที่เพาะปลูกอ้อยทั้งหมดทั่วประเทศ ทำให้การดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้ ยังไม่เป็นไปตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ซึ่งกำหนดให้ปริมาณอ้อยไฟไหม้เข้าหีบในฤดูกาลผลิตปี 2565/2566 ไม่เกินร้อยละ 5 และในฤดูการผลิตปี 2566/2567 ปริมาณอ้อยไฟไหม้เข้าหีบต้องเป็น 0 ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ

โรงงานน้ำตาลเริ่มประกาศปิดหีบหลังเปิดมานานกว่า 3 เดือน
ด้านข้อมูลจากเพจโรงงานน้ำตาลแห่งประเทศไทย ระบุว่า ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 มีโรงงานน้ำตาล 5 แห่ง จากทั้งหมด 57 แห่ง ประกาศแจ้งวันหยุดรับอ้อยแล้ว หลังเริ่มรับอ้อยเข้าหีบเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565
โดยในจำนวนนี้มี 1 โรงปิดแล้วตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้แก่ ไทยรุ่งเรือง จ.สกลนคร ส่วนอีก 4 โรง ที่ประกาศปิดในช่วงต้นเดือนมีนาคม ได้แก่ สหรุ่งเรือง จ.มุกดาหาร, เริ่มอุดร จ.อุดรธานี, อุตสาหกรรมน้ำตาลอีสาน จ.กาฬสินธิ์ และนครเพชร จ.กำแพงเพชร
ขณะที่สัดส่วนอ้อยสด ณ ปัจจุบัน (28 ก.พ. 2566) อยู่ที่ร้อยละ 68.47 ซึ่งทำให้สัดส่วนอ้อยไฟไหม้สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะมีอ้อยไฟไหม้ประมาณร้อยละ 30 ของฤดูการผลิตปี 2565/2566