
ชาวนาจังหวัดพิจิตรต้องพึ่งพาตัวเอง นานกว่า3 เดือน หลังแม่น้ำยมแห้งหนัก แม้กระทั่งในช่วงนี้เกิดพายุฤดูร้อนทำให้ฝนตกในหลายพื้นที่ แต่จังหวัดพิจิตรกลับไม่มีฝนตก ชาวบ้านคาดว่าเดือนหน้าจะแล้งกว่าเดิม
หลังจากที่ศูนย์พัฒนาการสื่อสารด้านภัยพิบัติ ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งในแม่น้ำยม จ.พิจิตร เมื่อเดือนมกราคม ผ่านมากว่า 3 เดือน ปัจจุบันพบว่าสถานการณ์ดูเหมือนจะรุนแรงเพิ่มขึ้น
นายศุภเทพ ศรีสังข์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการเกษตร อบต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร ระบุว่า แม้กรมอุตุนิยมวิทยาจะประกาศเตือนพายุที่จะทำให้มีฝนตกหนักในหลายจังหวัด แต่ในพื้นที่ อ.สามง่าม จ.พิจิตร นับตั้งแต่ต้นปีกลับไม่มีฝนตกมานานกว่า 3 เดือน

ส่งผลให้แม่น้ำยมซึ่งเป็นแม่น้ำหลักที่ไหลผ่าน 4 อำเภอ คือ อำเภอสามง่าม โพธิ์ประทับช้าง บึงนาราง และอำเภอโพทะเล แห้งขอดจนเห็นเนินทรายกลางแม่น้ำ และคาดการณ์ว่าเดือนเมษายนอาจจะแล้งมากยิ่งขึ้น สถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้เกษตรกรในพื้นทำได้เพียงพึ่งตัวเอง ด้วยการสูบน้ำจากบ่อบาดาลขึ้นมาทำการเกษตรเพื่อรักษาพืชผลที่กำลังอยู่ในช่วงเจริญเติบโตระหว่างรอเข้าฤดูฝนช่วงเดือนกรกฎาคม
ทีมข่าวศูนย์พัฒนาการสื่อสารด้านภัยพิบัติ สอบถามเรื่องนี้กับสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลต่อเนื่องมาจากฤดูฝนปีที่ผ่านมา ภาคเหนือตอนบนมีปริมาณฝนตกน้อยกว่าปกติ ทำให้ความชุ่มชื้นในดินไม่มากพอที่จะทำให้มีมวลน้ำในดินไหลลงสู่พื้นที่ด้านล่าง
แม้ว่าจะมีฝนตกในช่วงนี้ก็เป็นเพียงฝนจากพายุฤดูร้อน ในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น จึงไม่สามารถที่จะเพิ่มความชุ่มชื้นในดินได้ สอดคล้องกับสถานการณ์ของ 4 เขื่อนหลักในภาคเหนือที่ปริมาณน้ำยังถือว่าน้อยมาก
