
เมื่อพูดถึงมันสำปะหลัง วัตถุดิบสำคัญที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมอาหารต่างๆ และยังเป็นผลผลิตส่งออกเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ทว่าในช่วง 5 ปีนี้ เกษตรกรต้องเผชิญกับโรคระบาดที่เรียกว่า “โรคใบด่าง” เกิดจากเชื้อไวรัส Cassava Mosaic Virus พบการระบาดครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ประเทศเวียดนามและกัมพูชา ก่อนที่ในปี 2561 จะพบการระบาดหลายจังหวัดของประเทศไทย
รศ.ดร.วิษณุ อรรถวานิช ในฐานะทีมวิจัยโครงการการประเมินผลกระทบและความคุ้มค่าของการลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อลดการระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลังของประเทศไทย ระบุว่า การระบาดรุนแรงเพิ่มขึ้นในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมาจากการเคลื่อนย้ายท่อนพันธุ์มันสำปะหลังข้ามจังหวัด โดยที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าท่อนพันธุ์มีการติดโรค เมื่อเกษตรซื้อท่อนพันธุ์ไปปลูกจึงทำให้มีการขยายพื้นที่การระบาดอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมี “แมลงหวี่ขาวยาสูบ” เป็นพาหะของการแพร่จากต้นสู่ต้น แม้ที่ผ่านมาจะมีการสั่งให้เกษตรกรทำลายต้นที่ติดเชื้อ แต่ปัจจุบันการระบาดก็ยังมีอย่างต่อเนื่อง
นั่นเพราะท่อนพันธุ์ที่มีการจำหน่าย จะเป็นท่อนพันธุ์ที่ไม่มีใบ การสังเกตจึงเป็นไปได้ยาก เพราะจะรู้ว่าท่อนพันธุ์ติดเชื้อก็จะต้องรอให้มีใบงอกเจริญเติบโต ที่จะมีลักษณะใบด่างและหงิก เสียรูปทรง หรือใบย่อยบิดเบี้ยวหงิกงอ โค้งเสียรูปทรง ใบอ่อนและใบที่เจริญใหม่มีขนาดเล็กลง ยอดหงิก ต้นแคระแกร็น
รศ.ดร.วิษณุ ระบุว่า การนำอาสาสมัครทีมวิจัยลงพื้นที่ในหลายจังหวัดเพื่อสอบถามปัญหากับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง เป็นการเก็บข้อมูลเพื่อนำไปวิจัยเพื่อเร่งหาสาเหตุและการแก้ปัญหากับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. เพื่อเร่งช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นในอนาคตท่อนพันธุ์สะอาดจะหายาก และจะกระทบตั้งแต่ระบบต้นทางถึงปลายทาง ทั้งเกษตรกรผู้ปลูก และภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง




