ท่ามกลางพายุอันทรงพลังที่พัดมาจากแถบเทือกเขา Rocky สภาวะอากาศสุดขั้ว ทั้งลมกระโชกแรงและพายุหมุนทอร์นาโด ทำให้ประชาชนประมาณ 40 ล้านคนในสหรัฐฯ โดยเฉพาะทางภาคกลางตอนใต้ เสี่ยงเผชิญพายุฝนฟ้าคะนองในช่วงต้นเดือนธันวาคม ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
พายุที่รุนแรงจะทำปฏิกริยากับความร้อนและความชื้นจากอ่าวเม็กซิโก ซึ่งจะส่งผลให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรงขึ้นได้จากกระแสลมกรดที่พัดอยู่เหนือพื้นดินสูงขึ้นไปหลายกิโลเมตร โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมีทั้งในรัฐลุยเซียนา มิสซิสซิปปี และอาร์คันซอ
ภัยคุกคามจากสภาพอากาศสุดขั้วในลักษณะนี้มักเกิดจากแรงลมที่สร้างความเสียหายแก่ต้นไม้และเสาไฟฟ้าได้ เช่นเดียวกับการส่งผลกระทบต่อระบบโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ซึ่งลมพายุอาจมีความเร็วได้สูงสุดถึงมากกว่า 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนี้เมื่อชั้นบรรยากาศมีลมเฉือนเกิดขึ้นจำนวนมาก ความเสี่ยงที่พายุฝนฟ้าคะนองจะทวีความรุนแรงและกลายเป็นพายุหมุนทอร์นาโดก็ยิ่งมีมากขึ้น
ลมเฉือน คือปรากฏการณ์ที่เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นกับกระแสลมตั้งแต่ระดับพื้นดินไปจนถึงระดับที่สูงขึ้นไปในบรรยากาศนับพันเมตร และสามารถทำให้พายุฝนฟ้าคะนองเกิดการหมุนตัวได้ เมื่อพายุเหล่านี้หมุนตัว ความเสี่ยงที่จะกลายเป็นพายุหมุนก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ขณะที่การเกิดพายุทอร์นาโดในช่วงกลางคืนมักทำให้เสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตรายมากขึ้น จากการที่ผู้คนไม่สามารถสังเกตเห็นการก่อตัวของพายุล่วงหน้าได้ ซึ่งไม่ใช่พายุทุกลูกที่จะมีฟ้าผ่าจนทำให้สังเกตตำแหน่งของพายุได้ นอกจากนี้ ฝนที่ตกหนักยังอาจเป็นปัจจัยที่บดบังการมองเห็นพายุได้อีกด้วย
หากเปรียบเทียบกับช่วงการเกิดพายุทอร์นาโดระหว่างปีนี้กับในเดือนธันวาคมปี 2021 ในพื้นที่เดียวกัน จะพบว่าการเตรียมการรับมือสำหรับในปีนี้ไม่มากเท่ากับปีก่อนหน้า เนื่องจากมีข้อแตกต่างที่สำคัญคืออุณหภูมิปีนี้ต่ำกว่าเดิม 10-20 องศา และอากาศในช่วงก่อนการเกิดพายุไม่ชื้นเท่าปีที่แล้ว โดยการเกิดสภาวะอากาศแปรปรวนรุนแรงเมื่อวันที่ 10-11 ธันวาคม ปี 2021 ทำให้มีผู้เสียชีวิตร่วม 50 คนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 500 คน ตามข้อมูลของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ
แม้ว่าระดับภัยคุกคามของปีนี้จะต่ำกว่าเมื่อเทียบกับช่วงปลายปีที่แล้ว แต่ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอาจเกิดขึ้นได้อย่างรุนแรงแม้มีพายุทอร์นาโดพัดถล่มพื้นที่ชุมชนเพียง 1-2 ลูกเท่านั้น
นอกจากนี้ ปริมาณฝนที่เกิดจากพายุมักจะมีมากจนไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อทัศนวิสัยในการขับขี่เท่านั้น แต่ยังอาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังตามถนนและเขตเมืองได้ โดยพื้นที่ใจกลางเมืองใหญ่ๆ ในเส้นทางพายุอาจเผชิญน้ำท่วมขังและหลายพื้นที่ยังเสี่ยงเผชิญพายุฝนฟ้าคะนองอย่างรุนแรง ซึ่งผลกระทบยังอาจรวมถึงการล่าช้าของเที่ยวบินหรือต้องสั่งงดทำการบินเพื่อความปลอดภัยอีกด้วย
