เครื่องหมายอัศเจรีย์

5 จังหวัดลุ่มน้ำชีกังวล เขื่อนอุบลรัตน์ เพิ่มการระบายน้ำ

ปัจจุบัน เขื่อนอุบลรัตน์  มีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ที่  3,163  ล้าน/ลบ.ม.  หรือคิดเป็นร้อยละ 130  เท่ากับว่าเกินเกณฑ์ความจุมา 30%  ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เมื่อวานนี้ (10 ต.ค. 65) เขื่อนฯ  ปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็น 52 ล้าน ลบ.ม./วัน   ส่งผลให้ชุมชนริมน้ำชีใน จ.กาฬสินธุ์  จ.ร้อยเอ็ด  และ จ.ยโสธร  ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น 10 -15 ซม./วัน   จากเดิมจะขึ้นวันละ 5 ซม./วัน  ในช่วงก่อนที่จะมีการปรับการระบายน้ำ   โดยเส้นทางน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ จะระบายมาที่ลำน้ำพอง ไปยัง จ.มหาสารคาม จ.กาฬสินธุ์  จ.ร้อยเอ็ด  จ.ยโสธร  และ จ.อุบลราชธานี ก่อนไปสมทบกับแม่น้ำมูลที่ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี

นายสิริศักดิ์  สะดวก  ผู้แทนเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขงอีสาน  เปิดเผยกับศูนย์พัฒนาการสื่อสารด้านภัยพิบัติ  ถึงความกังวลว่า  การระบายน้ำเพิ่มของเขื่อนฯ จะส่งผลกระทบกับ 8 อำเภอ จังหวัดร้อยเอ็ด  (อ.จังหาร,อ.เชียงขวัญ,อ.โพธิ์ชัย,อ.ธวัชบุรี,อ.เสลภูมิ,อ.ทุ่งเขาหลวง,อ.อาจสามารถ,อ.พนมไพร)  และ 4 อำเภอ จังหวัดยโสธร (อ.เมือง,อ.คำเขื่อนแก้ว,อ.มหาชนะชัย,อ.หอวัง) และ อ.เขื่องใน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี  ซึ่งเป็นพื้นที่ราบต่ำและเป็นปลายทางลุ่มน้ำชี  การเดินทางของน้ำไปสู่แม่น้ำมูลจึงต้องใช้เวลานานกว่าจุดอื่น  ประกอบกับจุดนี้ยังมีน้ำต้นทุนที่ยังคงค้างเพราะยังไม่สามารถระบายไปแม่น้ำมูลที่ระดับน้ำยังสูงอยู่  ชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำชีจึงป้องกันตัวเองด้วยการทำเขื่อนป้องกันชั่วคราวกันพื้นที่ไม่ให้น้ำทะลักเข้ามา   ชาวบ้านวิตกว่าหากเขื่อนอุบลรัตน์เพิ่มการระบายน้ำขึ้นอีกก็จะส่งผลให้มวลน้ำชียกตัวสูงขึ้น แต่หากมีจุดใดที่เขื่อนป้องกันชำรุด หรือเป็นจุดฟันหลอ ก็จะทำให้น้ำชีไหลทะลักเข้าท่วมเป็นพื้นที่บริเวณกว้างขึ้น

นายสิริศักดิ์  กล่าวว่า ชาวบ้านในพื้นที่ริมน้ำชี ได้เตรียมอพยพสิ่งของขึ้นที่สูง  และขนย้ายไปไว้ในที่ปลอดภัย  เพราะคาดว่าหากเขื่อนฯ มีการปล่อยน้ำเพิ่ม ก็จะส่งผลกระทบหนัก  โดยยอมรับว่าหากสถานการณ์ไม่ได้แย่ไปกว่านี้ก็ยังสามารถที่รับมือได้ 

แชร์