
เจ้าหน้าที่เสริมคันกั้นบ่อขยะเทศบาลเมืองอ่างทอง ใน ต.เทวราช อ.ไชโย จ.อ่างทอง หลังมวลน้ำเจ้าพระยา ที่ไหลผ่าน จ.สิงห์บุรี ทะลักเข้ามาตามช่องว่างแนวคันกั้นที่แตกเสียหายจนทำให้ น้ำท่วม บริเวณ อ.ไชโย รวมถึงยังมีมวลน้ำจากแม่น้ำน้อย ที่เอ่อล้นตลิ่งมายังคลองสามซ้าย โดยมวลน้ำจากทั้ง 2 จุดจะไหลมาลงคลองลำท่าแดง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสาธารณะที่ไหลผ่านบริเวณใกล้กับบ่อขยะ ก่อนผ่านประตูระบายน้ำเข้าสู่เขตเศรษฐกิจของเทศบาลเมืองอ่างทอง
ศูนย์พัฒนาสื่อสารด้านภัยพิบัติตรวจสอบพบปริมาณน้ำหลากมีมาก ทำให้เอ่อล้นตลิ่งลำคลองสาขา และไหลบ่ากระจายเข้าทุ่งต่าง ๆ ทำให้มีระดับน้ำแนวโน้มสูงขึ้น อีกทั้งยังขยายวงกว้าง ทำให้มวลน้ำบางส่วนเอ่อเข้าไปในบ่อขยะ สร้างความกังวลให้กับชาวบ้านชุมชนลำท่าแดง ม.4 ต.เทวราช อ.ไชโย เพราะเกรงว่าน้ำและขยะจากบ่อขยะจะไหลลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ รวมถึงกระจายเข้าไปในพื้นที่โดยรอบ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ

นายเตือนใจ ทรงไตร นายกเทศมนตรีเมืองอ่างทอง ให้ข้อมูลกับศูนย์พัฒนาการสื่อสารด้านภัยพิบัติ ยอมรับมวลน้ำปีนี้มีมากใกล้เคียงกับปี 2554 จึงต้องเร่งดำเนินการป้องกันนำดินมาเสริมคันป้องกันบ่อขยะไว้ เพราะปริมาณขยะที่ต้องรองรับขยะจากทั้งจังหวัด มีมากถึงกว่า 300,000 ตัน หากมวลน้ำไหลเข้ามาท่วมได้จะส่งผลกระทบต่อสุขอนามัยของประชาชนเป็นอย่างมาก ประกอบกับขยะที่มีอยู่อาจกระจายไปในบริเวณกว้าง
ที่ผ่านมาได้มีความพยายามแก้ปัญหาระยะยาวด้วยการสร้างโรงขยะไฟฟ้า แต่ยังติดปัญหาในขั้นตอนของการอนุมัติงบประมาณ สิ่งที่ทำได้ขณะนี้คือการเร่งย้ายขยะออกจากบ่อไปยังโรงงานรับซื้อที่ จ.สระบุรี ควบคู่กับการเสริมคันป้องกันน้ำท่วม

ยืนยัน ขณะนี้ยังไม่มีน้ำจากภายนอกไหลเข้าท่วมบ่อขยะในปริมาณมาก สิ่งที่ต้องทำหลังจากนี้คือการป้องกันพื้นที่แห่งนี้ไว้ไม่ให้ น้ำท่วม เข้ามาเพิ่มและป้องกันไม่ให้น้ำที่ไหลเข้าท่วมแล้วบางส่วนไหลลงสู่คลองหรือแหล่งน้ำสาธารณะต่อไป
นายณรงค์พร ดูดดื่ม ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอ่างทอง ระบุว่า จังหวัดได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยหากพบน้ำปนเปื้อนไหลออกจากบ่อขยะที่จุดใด จะรีบประสานให้เจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมมลพิษส่วนกลาง นำเครื่องตรวจวัดค่าสารพิษมาตรวจตามแหล่งน้ำสาธารณะทันที เบื้องต้นยอมรับว่ามีแบคทีเรีย และสารเคมีอันตรายที่ต้องเฝ้าระวังหลายอย่าง เช่น แบคทีเรียกลุ่มฟีคอลโคลิฟอร์ม, อีโคไล ซึ่งไม่เพียงแค่แบคทีเรีย 2 ตัวนี้เท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายชนิดที่ไม่สามารถระบุได้ เพราะต้องยอมรับว่าบ่อขยะคือที่รวบรวมสิ่งสกปรกที่จะก่อให้เกิดการติดเชื้อได้หากรั่วไหลออกไป และหากเกิดการรั่วไหลของน้ำปนเปื้อนของเสีย ประชาชนจะต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดนน้ำเหล่านี้ เพราะมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดโรคทั้งภายในและภายนอกร่างกาย