อะไรทำให้สิ่งมีชีวิตนี้มีคุณค่ามากเสียจนต้องทุ่มงบประมาณปีละมากกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการดูแลและปกป้องรักษาเอาไว้ ที่นี่เป็นระบบนิเวศขนาดใหญ่ซึ่งช่วยให้สิ่งมีชีวิตกว่า 2,000 ชนิดดำรงชีพอยู่ได้ ซึ่งระบบนิเวศที่ว่านี้รู้จักกันในชื่อของ Great Barrier Reef ที่กินพื้นที่กว่า 336,000 ตารางกิโลเมตรและเปรียบเสมือนประติมากรรมชิ้นเอกของธรรมชาติที่สมควรได้รับการเอาใจใส่ดูแล มีเรื่องน่าอัศจรรย์เกี่ยวกับกลุ่มปะการังนับพันล้านเหล่านี้ที่น่าสนใจถึง 10 ข้อ ว่าทำไมที่นี่จึงคู่ควรแก่การดูแลเอาใจใส่

1. สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก
โลกมีสิ่งมหัศจรรย์ในยุคโบราณ 7 แห่ง และมีสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ 7 แห่ง โดยศูนย์มรดกโลกขององค์การยูเนสโกยกย่องให้ Great Barrier Reef เป็นสิ่งมหัศจรรย์เมื่อปี 1981 และเมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงปี 2021 ที่นี่เสื่อมถอยลงถึง 50%
สิ่งมหัศจรรย์จากยุคโบราณเพียงอย่างเดียวที่ยังตั้งตระหง่านอยู่ได้หรือมหาพีระมิดแห่งกิซา ส่วนสิ่งมหัศจรรย์อีก 4 จาก 7 แห่งถูกทำลายจากเพลิงไหม้และแผ่นดินไหว แต่สำหรับสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ เป็นฝีมือมนุษย์เองที่ทำให้สถานที่เหล่านี้ตกอยู่ในความเสี่ยง ซึ่งจะต้องมีการใส่ใจดูแลเพื่อรักษาแนวปะการังและมหาสมุทรทั้งหมดให้อยู่รอดปลอดภัยจากภาวะโลกรวนรวมถึงการทำประมงเกินขนาด ไม่เช่นนั้นสิ่งเหล่านี้อาจสูญหายไปตลอดกาล
2. ปะการังฟอกขาวที่ Great Barrier Reef
ปะการังฟอกขาวเป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อน้ำอุ่นขึ้น ทำให้ปะการังสูญเสียสีสันที่ได้มาจากสาหร่ายที่อาศัยอยู่ร่วมกันซึ่งมีชื่อว่า zooxanthella ปะการังจะดำรงชีวิตอยู่ได้ ต้องมีสาหร่ายชนิดนี้ แต่เมื่อน้ำโดยรอบอุ่นจนเกินไป สาหร่ายทะเลเหล่านี้จะผลิตพิษออกมา ทำให้ปะการังต้องขับเอาสาหร่ายพิษนี้ออกไปเพื่อความอยู่รอด เพราะในภาวะปกติสาหร่ายชนิดนี้ถือเป็นแหล่งอาหารสำคัญที่สังเคราะห์แสงและผลิตน้ำตาลเป็นอาหารแก่ปะการัง ซึ่งถ้าสภาวะที่น้ำอุ่นจัดเกิดขึ้นต่อเนื่องยาวนานเกินไป ปะการังจะเสี่ยงอดอาหารตายในที่สุด
ปะการังจึงจะต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อการดำรงชีวิต โดยหาอาหารจากชั้นน้ำผ่านการใช้หนวดดักจับอะไรก็ตามที่ลอยผ่านไปมา
ข้อเท็จจริงที่น่าเศร้าเกี่ยวกับการฟอกขาวของปะการังคือความเสียหายจะเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง และทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงจากแนวปะการังที่มีชีวิตชีวา (เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตทางทะเลที่อาศัยอยู่) ไปสู่การเป็นแนวปะการังที่สูญเสียชีวพลวัตและมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้น้อยลง

ความหวังของแนวปะการังทั่วโลกขึ้นอยู่กับการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของมนุษย์เรา (ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก) และลดการสวาปามอาหารทะเลอย่างไม่รู้จักพอในทุกพื้นที่ทั่วโลก เราจะต้องให้โอกาสมหาสมุทรและระบบนิเวศนี้ได้ฟื้นตัวบ้าง และเราจะต้องมีแนวปะการังรวมถึงมหาสมุทรที่อุดมสมบูรณ์จึงจะมีโลกที่สมบูรณ์ได้
ปะการังฟอกขาวไม่ใช่ปัญหาที่นักวิทยาศาสตร์เท่านั้นที่จะต้องวิตกกังวลแต่เป็นปัญหาสำหรับทุกคนซึ่งใครๆ ก็มีส่วนร่วมในการแก้ไขได้ผ่านการลดการปล่อยคาร์บอน
3. Great Barrier Reefผู้อารี
นอกจากหมู่ปะการังในGreat Barrier Reefจะมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศแล้ว ยังช่วยสร้างประโยชน์ในด้านอื่นๆ ได้อีกมาก แนวปะการังที่สมบูรณ์ดีจะช่วยส่งเสริมทั้งการประมง การท่องเที่ยว และการศึกษาวิจัย
เนื่องจากGreat Barrier Reef ได้รับความสนใจอย่างมาก จึงช่วยนำรายได้เข้าสู่เศรษฐกิจของออสเตรเลียเป็นจำนวนหลายล้านเหรียญ เป็นแหล่งงานกว่า 64,000 ตำแหน่ง ซึ่งช่วยให้มีเวลาและกำลังในการศึกษาหาหนทางดูแลแนวปะการังนี้ให้ได้ดียิ่งขึ้น

4. กิจกรรมกลางแสงจันทร์
แนวปะการังนี้รับรู้ได้ถึงวงจรของดวงจันทร์ซึ่งเชื่อมโยงกับปรากฏการณ์พิเศษที่เกิดขึ้นที่นี่ เรียกว่าการปล่อยไข่ครั้งใหญ่ของปะการัง
เมื่อเกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้น ปะการังจำนวนมากจะปล่อยเซลล์สืบพันธุ์ออกมาในเวลาเดียวกันในชั้นน้ำ เพื่อสร้างให้เกิดปะการังรุ่นต่อไปในแนวปะการัง
ปรากฏการณ์นี้ถูกขนานนามว่า ‘sex on the reef’ หรือการผสมพันธุ์ที่แนวปะการัง และเป็นการสืบพันธุ์วิธีหนึ่งของปะการัง
5. มองเห็นได้จากอวกาศ
แนวปะการังGreat Barrier Reef มีขนาดใหญ่กว่าทุกรัฐของสหรัฐอเมริกา ยกเว้นรัฐเท็กซัสกับอะแลสกา และยังมีพื้นที่มากกว่าสหราชอาณาจักร ฮอลแลนด์ กับสวิตเซอร์แลนด์รวมกัน ดังนั้นแนวปะการังนี้มีขนาดใหญ่พอที่จะมองเห็นได้จากบนอวกาศ ทอดยาวไปตามแนวชายฝั่งของรัฐควีนส์แลนด์
6. เรื่องน่ารู้ของหมู่ปลา
ปลาเก๋าควีนส์แลนด์เป็นปลากระดูกแข็งขนาดใหญ่ที่สุดที่พบได้ในGreat Barrier Reef ซึ่งมีน้ำหนักตัวได้มากถึงกว่า 362 กิโลกรัมเมื่อโตเต็มวัย
ส่วนฉลามวาฬเป็นปลากระดูกอ่อนขนาดใหญ่ที่สุด แม้ว่าจะพบได้ยากแต่ก็เป็นไปได้ที่จะได้เห็นสิ่งมีชีวิตซึ่งมีน้ำหนักมากที่สุดได้ถึงกว่า 18 ตัน

7. สำคัญต่อทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำ
ไม่เพียงแต่จะมีปลาน้อยใหญ่เท่านั้นที่อาศัยอยู่ในGreat Barrier Reef แต่แนวปะการังนี้ยังเป็นแหล่งที่อยู่ของเต่าทะเล 6 สายพันธุ์และนกอีก 215 สายพันธุ์ซึ่งทำรังในบริเวณแนวปะการังหรือเกาะแก่งใกล้เคียง
โลมา วาฬหลังค่อม และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอื่นๆ ที่เล็กเกินกว่าจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของGreat Barrier Reef
เพราะแนวปะการังนี้ช่วยปกป้องสิ่งชีวิตหลายพันชนิด ภาวะที่ไม่สมดุลของสภาพภูมิอากาศอาจส่งผลร้ายแรงถึงชีวิตได้ การฟอกขาวของ Great Barrier Reef ไม่เพียงแต่จะทำลายแนวปะการัง แต่การตายของปะการังยังจะส่งผลเป็นทอดๆ ที่กระทบต่อทะเลสู่บนบก จากปลาสู่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
8. สวรรค์ของนักดำน้ำ
หากคุณเคยสัมผัสความมหัศจรรย์ของโลกใต้น้ำ จะทราบดีว่าทำไมนักดำน้ำนับพันต่างมุ่งหน้าไปยังGreat Barrier Reef
แม้ว่าปะการังจะได้รับผลกระทบจากการฟอกขาว แต่ก็ยังมีจุดที่สวยสดอีกหลายกิโลเมตรให้สัมผัสความงามได้ และสำหรับนักดำน้ำที่อยากเห็นมากกว่าชีวิตใต้ทะเล ยังมีจุดชมซากเรือใต้น้ำอีกหลายแห่งเช่นกัน โดยมีข้อมูลว่ามีซากเรือมากกว่า 800 ลำในบริเวณดังกล่าว และมีจุดที่ได้รับการสำรวจแล้วเพียงหยิบมือเท่านั้น

9. อย่ามองข้ามหมู่เกาะ
เป็นเรื่องง่ายที่จะมัวแต่สนใจชีวิตใต้ทะเลแถบGreat Barrier Reef แต่จริงๆ แล้วที่นี่ไม่ใช่แค่แหล่งอาศัยของระบบนิเวศแนวปะการังกว่า 2,900 จุด แต่ยังมีเกาะกว่า 900 แห่ง โดยในจำนวนนี้ 600 แห่งอยู่บนภาคพื้นทวีป
นี่หมายความว่าสำหรับนักเดินทางแล้วGreat Barrier Reef มีความสวยงามให้สำรวจได้อย่างไม่รู้จบ ส่วนสำหรับแนวปะการังเอง นี่คือเครื่องยืนยันว่าที่นี่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพื่อต้อนรับทุกคนที่ต้องการจะเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศอันเปราะบางนี้
อาจจะดูแปลกหากจะคิดว่าเพียงแค่การจุ่มตัวลงในน้ำหรือดำน้ำตื้นแค่ชั่วครู่จะสร้างปัญหาได้ แต่หากจำนวนคนที่ว่ายลงไปในบริเวณนี้มีนับล้าน ก็ไม่ยากที่จะจินตนาการถึงผลกระทบต่อแนวปะการังได้ แต่ก็ยังมีหนทางให้สัมผัสความอัศจรรย์ของที่นี่ได้อย่างปลอดภัย โดยการใช้ครีมกันแดดที่ปลอดภัยต่อปะการัง และระมัดระวังไม่สัมผัสโดนหรือเหยียบปะการังเหล่านี้
10. แนวปะการังที่บรรจบกับป่าฝน
ด้วยคุณสมบัติในการเป็นแหล่งอาศัยและเติบโตของสิ่งมีชีวิตสารพัด จึงไม่น่าแปลกใจที่สถานที่แห่งนี้จะอยู่ไม่ไกลจากแหล่งมรดกโลกอีกแห่ง
แนวชายฝั่งของGreat Barrier Reef อยู่ติดกับป่าฝน Daintree ซึ่งรู้จักกันในอีกชื่อคือ Wet Lands และเป็นป่าฝนที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
แนวปะการังนี้จำเป็นต้องได้รับการปกป้อง
เป็นเรื่องง่ายที่จะทึกทักว่าแนวปะการังGreat Barrier Reef จะทนทานได้ทุกสภาวะ แต่อันที่จริงแล้วไม่เป็นเช่นนั้น อิทธิพลของมนุษย์ต่อระบบนิเวศที่มีลักษณะเฉพาะอาจนำมาซึ่งหายนะได้
หากได้รับการใส่ใจและดูแลอย่างเหมาะสม การฟื้นฟูปะการังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งจริงๆ แล้วโครงการฟื้นฟูเหล่านี้เกิดขึ้นแล้วหลายแห่งทั่วโลก
เรามีส่วนร่วมได้โดยการช่วยสนับสนุนบริษัทที่ส่งเสริมการดูแลแนวปะการัง เช่น ผลิตภัณฑ์กันแดด People4Ocean Sun Care เราเป็นบริษัทจากออสเตรเลียและนักวิทยาศาสตร์ของเรายืนยันว่าผลิตภัณฑ์ของเราประกอบไปด้วยส่วนผสมที่ปลอดภัยต่อปะการังทั้งสิ้น
และการทำความเข้าใจถึงผลกระทบของการกระทำต่างๆ ต่อปะการัง คุณก็สามารถช่วยสร้างโลกที่ปลอดภัยต่อปะการังได้
