
ภาคกลาง และภาคตะวันออกยังคงมีฝนฟ้าคะนองเป็นบางพื้นที่เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำ จากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในขณะที่คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บางพื้นที่ได้รับผลกระทบจากฝนฟ้าคะนอง
ภาคเหนือ : อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอนเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชรพิจิตร พิษณุโลก ตาก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานีหนองคาย บึงกาฬ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง : อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี
ภาคตะวันออก : อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้อ่าวไทยและอันดามัน : มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงากระบี่ ตรัง และสตูล
ทั้งนี้ ประเทศไทยตอนบนรวมถึงภาคกลางมีแนวโน้มของการสะสมของฝุ่นละอองหมอกควันเริ่มมีมากขึ้น เนื่องจากฝนลดลง ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน ค่าฝุ่นละออง PM2.5 อยู่ในเกณฑ์สีเหลืองเป็นส่วนใหญ่ และมีสีส้มบางจุด